เครื่องแมมโมกราฟี่เป็นเครื่องมือการตรวจทางรังสีชนิดหนึ่งด้วยการใช้รังสีเอ็กซ์เรย์ เพื่อใช้ใน การตรวจวินิจฉัยมะเร็งเต้านมโดยเฉพาะ โดยใช้ปริมาณรังสีในการถ่ายภาพเนื้อเยื่อของเต้านม น้อยกว่าการถ่ายเอกซเรย์ทั่วไป แต่มีความสามารถในการถ่ายภาพเพื่อใช้ในการตรวจวินิจฉัยได้ ละเอียดกว่ามาก โดยทั่วไปในการตรวจวินิจฉัยจะถ่ายภาพเต้านมแต่ละข้างจำนวนข้างละ 2 ภาพ ด้วยการบีบกดเนื้อเต้านมและทำการถ่ายภาพเต้านมจากด้านบนและด้านข้าง รวมการถ่ายภาพ แมมโมแกรมในระบบมาตรฐานจำนวนทั้งสิ้น 4 ภาพ ในการถ่ายภาพแมมโมแกรมสามารถตรวจพบจุดหินปูนที่มีขนาดเล็กมากๆในเต้านมได้ดีกว่า การตรวจวิธีอื่น ซึ่งหินปูนบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมะเร็งเต้านมและพยาธิสภาพอื่นๆ ซึ่งมีขนาดเล็กมากไม่สามารถคลำได้พบจากการตรวจคลำเต้านมด้วยตนเอง และอาจไม่พบจาก การตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ แต่สามารถตรวจพบได้ชัดเจนจากการตรวจแมมโมกราฟี่ ดังนั้นการถ่ายภาพแมมโมแกรมจึงมีประโยชน์อย่างมากในการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านม ได้ในระยะแรกเริ่ม
ปัจจุบันนี้อุบัติการณ์ของมะเร็งเต้านมในประเทศไทยพบสูงขึ้นเรื่อยๆมะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุด ของผู้หญิง แมมโมกราฟี่เป็นเครื่องมือที่ได้รับการยอมรับจาก ทั่วโลกว่ามีประสิทธิภาพที่สุดในการตรวจพบหินปูนใน เต้านม ซึ่งหินปูนบางชนิดพบในมะเร็งเต้านมระยะเริ่มแรก ซึ่งไม่สามารถค้นพบจากการตรวจร่างกาย
- ผู้หญิงที่มีญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม (มารดา, พี่สาว, น้องสาว, บุตรสาว)
- ผู้ที่เคยรับการฉายแสงเพื่อรักษาโรคมะเร็งชนิดอื่นที่บริเวณหน้าอก
- ผู้ที่รับยาฮอร์โมนอย่างสม่ำเสมอ
- ผู้ที่เป็นมะเร็งเต้านมแล้ว 1 ข้าง
- ผู้ที่ได้รับการเจาะตรวจชิ้นเนื้อพบภาวะที่เรียกว่า Atypical ductal hyperplasia
พบว่าระยะของประจำเดือน ไม่มีผลต่อภาพที่ได้จากแมมโมกราฟี่ อย่างมีนัยสำคัญ แต่ช่วง ที่ใกล้มีประจำเดือน หรือกำลังมีประจำเดือนอยู่ เต้านมจะมีการคัดตึงตามธรรมชาติ ทำให้เจ็บเวลา กดเต้านมขณะทำแมมโมกราฟี่ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการตรวจ คือ 7-14 วันหลังมีประจำเดือน อย่างไรก็ตาม ท่านไม่ต้องกังวลถ้าวันนัดของท่านไม่ตรงกับช่วงเวลาดังกล่าว
ขั้นตอนการตรวจแมมโมกราฟี่จำเป็นต้องมีการกดเต้านมโดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อทำให้ เนื้อเต้านมแผ่ออกไม่บังสิ่งผิดปกติถ้ามี นอกจากนี้ยังลดปริมาณรังสีที่เต้านมจะได้รับ แต่ท่าน ไม่ต้องกังวลว่าการตรวจจะเจ็บมาก
ปริมาณรังสีที่ได้รับจากการทำแมมโมกราฟี่น้อยมาก ๆ ไม่มีรายงานว่าทำให้เกิดอันตราย ในระยะยาว แต่อย่างไรก็ตามก่อนการตรวจท่านควรแน่ใจว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ ทารกได้รับรังสีโดยไม่จำเป็น